Magento ประกาศว่าจะยุติการ supports แพลตฟอร์ม Magento 1 ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2018 แต่ต่อมา Jason Woosley ระบุว่า Magento1 จะยังคงได้รับการ supports อยู่อีกสักระยะไปจนถึงเดือน มิถุนายน 2563 หลังจากนั้นจะหยุดการ Supports ทุกอย่างทันที นั่นหมายความว่า ปีหน้า 2020 หลังจากเดือน มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ใครที่ใช้ Magento 1 อยู่ ต้องตรียมตัวทำการอัปเกรดโดยด่วน เพราะถึงคุณใช้ Magento 1 อยู่ จะไม่มีการอัปเดทอะไรใหม่ๆออกมาให้อีกต่อไป รวมถึงระบบความปลอดภัยที่เรียกว่า Patch ด้วย Patch คืออะไร อ่านเพิ่มเติม
ผลที่ตามมา ถ้าคุณไม่อัปเกรดเป็น Magento 2
- เสี่ยงต่อการละเมิดข้อมูลที่เพิ่มขึ้น และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อแบรนด์ และชื่อเสียงของคุณ
- ตกเป็นเป้าหมายด้านความปลอดภัยเนื่องจากไม่มีการอัปเกรด หรือสร้างโปรแกรมแก้ไขระบบรักษาความปลอดภัย (patch)
- ไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลของอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS) มาตรฐานสากลเหล่านี้กำหนดโดยบริษัทผู้ออกบัตร และมีผลบังคับใช้กับผู้ค้าทั้งหมดที่ดำเนินการเกี่ยวกับการชำระเงิน
ข้อกำหนดที่ 6 ของ PCI DSS กำหนดให้ร้านค้าต้อง “พัฒนาและบำรุงรักษาระบบและแอปพลิเคชันให้มีความปลอดภัยโดยติดตั้งโปรแกรมแก้ไขระบบรักษาความปลอดภัยของผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง” ถ้าไม่มีโปรแกรมแก้ไขระบบรักษาความปลอดภัยในอนาคต ร้านที่ใช้ Magento 1 จะไม่สามารถทำตามข้อกำหนดนี้ได้อีกต่อไป ซึ่งอาจส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายที่สูง และใช้เวลานานในการแก้ไขให้ถูกต้อง
Migrating to Magento 2 นั้นไม่สามารถใช้ได้
Magento 2 ใช้สถาปัตยกรรม และโครงสร้างใหม่ทั้งหมด มันเร็วกว่า และปลอดภัยกว่า แต่เนื่องจากการย้าย Magento 1 ไป Magento 2 ค่อนข้างมีความซับซ้อน และยุ่งยากมาก โดยที่เราไม่สามารถจะอัปเกรดโดยการ กดปุ่ม อัปเดท เหมือนกับ WordPress หรือ แพลตฟอร์มอื่นๆได้ จำเป็นต้องทำการสร้าง Magento 2 ขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้น จึงทำการย้าย Data ทั้งหมดที่ต้องการจาก Magento 1 มาไว้ที่ Magento 2 เช่น Data Sales, Data Customers, Data Products, Data attribute ซึ่งการย้าย Data เหล่านี้ นี่แระ จะมีปัญหา Bug เข้ามาให้คุณปวดหัวอย่างแน่นอน จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะในการย้าย หรือไม่ คุณก็ต้องหา Extension (เสียตังค์) เพื่อลดระยะเวลาในการทำงานให้เร็วขึ้น
Magento 2 สามารถทำงานได้อย่างเสถียร
Magento 2 เหมาะสำหรับธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่ามาก เพราะมีประสิทธิภาพมากขึ้น UX/UI สวยงามมากขึ้นและพร้อมกันนั้นยังมี Extension ที่หลากหลายเพื่อให้สามารถปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะ จึงเหมาะกับทั้ง B2B และ B2C เว็บสโตร์ต่างๆ
Magento 2 ใช้เวลาในการโหลดน้อยกว่า Magento 1 ได้ถึง 2-3 วินาที
Magento 2 ใช้เวลาในการโหลดหน้าเว็บไซต์น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของ Magento 1 แม้จะไม่มีการแคช เพราะว่าการโหลดหน้าเว็บนั้นมีผลมากต่อผู้ใช้งาน ถ้าเว็บคุณโหลดช้า มันจะทำให้คุณสูญเสียโอกาสทางธุรกิจได้ รวมถึงภาพลักษณ์เว็บไซต์ของคุณอาจจะไม่มีคนเข้าอีกต่อไป
Magento 2 ทำงานได้บนทุกอุปกรณ์การเชื่อมต่อ
ในปัจจุบันคนเข้าเว็บไซต์ผ่านมือถือ 90% จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกแพลตฟอร์มต้องรองรับการทำงานบนมือถือเป็นอันดับแรก Magento 2 ถือว่าทำงานบนมือถือและทุกอุปกรณ์การเชื่อมต่อได้อย่างดี
ระบบหลังบ้าน Magento 2 จัดการได้ง่าย และใช้งานง่าย
Magento 2 นำเสนอแผงผู้ดูแลระบบหลังบ้านที่ง่ายขึ้น เพื่อให้การวิเคราะห์ธุรกิจของคุณละเอียดยิ่งขึ้น เช่น ข้อมูลยอดขาย, คำค้นหายอดนิยม, ผลิตภัณฑ์ที่มีผู้ดูมากที่สุด, ลูกค้าใหม่ ฯลฯ อยู่ในที่เดียว โดยการปรับ UX/UI ใหม่ทั้งหมด ทำให้จัดการได้ดีเลยทีเดียว
Magento 1 จะไม่ได้รับการอัปเกรดอีกต่อไป
อย่างที่แจ้งไปว่า Magento 1 กำลังจะหยุดการอัปเดทในเดือน มิถุนายน 2563 และการ Supports ทั้งหมด รวมถึง Extension ระบบความปลอดภัยต่างๆ เราจึงควรที่จะเริ่มย้ายไปเป็น Magento 2 กันได้แล้วครับ ก่อนที่ Magento 1 จะหยุดการอัปเดท
ทางบริษัทของเรายินดีให้คำปรึกษา และบริการในการอัปเกรด Magento 1 ไปเป็น Magento 2
บริษัทมีแนวทางการพัฒนาเว็บไซต์ การตลาดออนไลน์ ที่เน้นคุณภาพ สร้างผลลัพธ์ได้จริง เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต ในโลกออนไลน์ พวกเรายินดีให้คำปรึกษา พร้อมวางแผนกลยุทธ์ภายใต้โจทย์ทางธุรกิจที่ชัดเจน