เมื่อองค์กร หน่วยงาน บริษัท ต่างๆ มีมาตรการ Work from Home ในสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า Covid-19 ที่กำลังระบาดทั่วโลก บริษัทเริ่มออกนโยบายให้พนักงานทำงานที่บ้านกันเเล้ว สำหรับปัญหาของหลายๆ คน เมื่อต้องทำงานที่บ้าน ไม่รู้จัก tools ที่จะนำมาปรับใช้กับการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และเป็นระบบได้
วันนี้เราจะพาไปดูว่า ถ้าทำงานจากที่บ้าน ต้องใช้งาน tools อะไรบ้าง…
Tools ในการจัดการตารางงาน
1. Trello
Trello เป็น collaboration software หรือ software ที่มีสำหรับเอาไว้ใช้ทำงานร่วมกันในทีมหรือในองค์กร ลักษณะเด่นของ Trello คือจะมีหน้าตาคล้ายกับกระดานที่เราเอาไว้แปะโพสต์อิท เวลาที่ทำ workflow
Trello ช่วยให้คุณออกแบบและกำหนดภารกิจให้กับทีมของคุณ เมื่องานใด ๆ คืบหน้าสมาชิกในทีมสามารถเลื่อนการ์ดเฉพาะไปยังประเภทถัดไป Trello เป็นหนึ่งใน Task Management ที่ดีที่สุดที่ทำให้การทำงานจากที่บ้านมีการจัดการที่ดีสำหรับคุณและทีมของคุณอย่างเป็นระบบ
2. Monday
Monday เป็น tools จัดการงานออนไลน์ แบบ Content Planning และ Message SCRUM Board ที่ช่วยให้ทีมทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ Feature คือ การวาง Content Plan สำหรับเล่นบน Social Media เช่นตาราง Post ใช้ #Hashtag ของงานติดตามทีม เมื่อมีเรื่องไม่คาดฝันเช่น เรื่องฉุกเฉิน หรือ Urgent Attention ด่วน ทั้งทีมจะสามารถรับมือ Crisis Management ที่ถือว่าเป็นภัยพิบัติสำคัญของสาย Agency ได้สบายๆ
Tools สำหรับการสื่อสาร
1. LINE
Line เป็นช่องทางหลักที่ใช้เป็นการสื่อสารในปัจจุบัน และเป็นที่นิยมมาก แม้ในขณะก่อนที่จะมีการประกาศ work from home หลายคนก็ใช้ Line เป็นช่องทางการสื่อสาร ติดต่อ คุยงาน ส่งไฟล์ กันเป็นประจำอยู่แล้ว หากมีเรื่องไม่ด่วนก็ทักแชตผ่าน LINE Chat ก่อนได้ หรือต้องการคุยงานแบบหลายคน ก็สร้าง LINE Group Chat กลุ่มแชตที่จะทำให้เพื่อนร่วมงานได้อัพเดทไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งรับได้สูงสุด 500 คนต่อกรุ๊ปเลย
2.Slack
Slack เป็น Communication Tools เช่นเดียวกับ Skype และโปรแกรมแชทอื่นๆ แต่เหนือกว่าตรงที่สามารถ plug เข้ากับ tools ตัวอื่นๆได้ด้วย เช่น แชร์ไฟล์จาก Google drive , สร้าง task งานที่เชื่อมกับ Asana เป็นต้น จะมีความเป็นทีม เป็นโปรแกรมแนว social ที่เน้นการทำงานมากกว่าตัวอื่นๆ
3. Zoom
Zoom เป็น tools ประชุมออนไลน์ยอดนิยมอันดับ 1ขณะนี้ สำหรับ Work From Home มีระบบตอบโต้ ระบบพูดคุยระหว่างผู้ร่วมประชุม และระบบยกมืออีกด้วย นอกจากนี้การใช้งานก็ง่ายและสะดวกมาก โดยผู้ใช้สามารถใช้บัญชี facebook ที่น่าจะมีกันทุกคนเข้าล็อคอินใช้งานได้เลย รองรับทั้งระบบ windows ios และ android
4. TeamViewer
TeamViewer อันนี้เป็น tools ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อ Remote โดยเฉพาะ เอาไว้สำหรับประชุม Online แบบ Conference , แชร์หน้าจอ desktop ซึ่งแชร์กันได้ในระดับที่เราสามารถ remote เข้าไปใช้งานเครื่องของเพื่อนได้เลย เหมาะกับงานด้าน Help Desk
5. Skype
Skype เป็น Tools ในรูปแบบโปรแกรมคล้ายกับพวกโปรแกรมแชทต่างๆ อย่าง Facebook Messenger, LINE มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลักๆ คือ พิมพ์คุยกันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง หรือสร้างเป็น group chat ก็ได้ , โทรหากันได้ทั้งแบบ VDO Call และ Voice Call หรือใช้ส่งไฟล์ ส่งรูปต่างๆ
6. AnyDesk
AnyDesk เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับ ควบคุมหน้าจอ หรือที่เรียกว่า “Remote Desktop” นั่นเอง มีให้เราเลือกใช้หลาย แพลตฟอร์ม ตั้งแต่ Windows / Mac OS หรือแม้แต่ Linux นอกจากนี้แล้ว ยังสามารถใช้งานร่วมกับ โทรศัพท์มือถือ ระบบ Android และ iOS ได้อีกด้วย
โปรแกรมตัวนี้ยังมีขนาดที่เล็ก เรียกใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องติดตั้ง ทำให้สามารถจับใส่ลงไปในยูเอสบีแฟรชไดร์ฟ (USB Flash Drive) เพื่อนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้เลย
Tools สำหรับ Developer
1. Pivotal Tracker
Pivotal Tracker เป็น platform ที่สามารถช่วยให้ทีมนักพัฒนาบน interface เดียวกันมีส่วนร่วมในสภาพแวดล้อมแบบออนไลน์แบบเรียลไทม์ ตั้งค่าเวลาเมื่องานควรจะเสร็จสมบูรณ์ให้ผู้อื่นอัปโหลดการอัปเดตและเก็บบันทึกและโต้ตอบกับลูกค้าได้จากหน้าแดชบอร์ดเดียวกัน
มันเป็น software ที่ดีที่สุดขณะทำงานจากที่บ้าน คุณสามารถคอยดูว่าทีมของคุณกำลังทำอะไรอยู่ นอกจากนี้ยังช่วยในการวางแผนตารางเวลาของคุณทุกสัปดาห์
2. Github
Github หนึ่งใน tools ที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับนักพัฒนาในขณะที่ทำงานจาก Github ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถแบ่งปันรหัสกับทีมได้ Github ยังมีการรวมที่หย่อนซึ่งทำให้การตรวจสอบโค้ดและการเขียนโปรแกรมคู่ง่ายขึ้นกว่าเดิม
Tools สำหรับทำ Digital Marketing
1. Google Drive / OneDrive
Google Drive เป็น tools ที่เอาไว้ใช้สำหรับเก็บข้อมูลหรือไฟล์เอกสารต่างๆ ถ้าทำงานแบบรีโมทไม่จำกัดสถานที่ เราก็ควรใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่สามารถเข้าถึงเมื่อไหร่และที่ไหนก็ได้ โดยใช้เป็นพวก share drive หรือ file hosting อย่าง Google Drive หรือ OneDrive ซึ่งทั้งสองเจ้านี้จะใช้งานโดยเชื่อมต่อกับบัญชีผู้ใช้ของ google และ Microsoft เอาไว้ใช้แชร์ไฟล์งาน , backup เอกสาร หรือถ้าองค์กรไหนใช้ Microsoft Office 365 ก็จะมี tools ที่ชื่อว่า SharePoint ให้ใช้เป็น Sharing Center ได้เหมือนกัน
2. Buffer
Buffer เป็น software การจัดการ social media ที่ช่วยให้ทีมการ digital marketing ของคุณกำหนดเวลาการ post ในบัญชี social media ของธุรกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้ทีม digital marketing ของคุณทำงานร่วมกันในกลยุทธ์เดียว Buffer เป็นเครื่องมือที่ต้องมีสำหรับทีม digital marketing ของคุณในขณะที่ทำงานจากที่บ้าน
3. Mailchimp
Mailchimp เป็นแพลตฟอร์มครบวงจรเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการตลาดผ่านการทำ Email Marketing ด้วยรหัสล็อกอินเดียวทีมของคุณสามารถทำงานบนแพลตฟอร์มเดียวเพื่อเรียกใช้แคมเปญการตลาดอีเมลรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าทางอีเมลเปิดตัวโฆษณารีมาร์เก็ตติ้งทางอีเมล ฯลฯ
4. Hootsuite
Hootsuite อีกหนึ่งแพลตฟอร์มการจัดการโซเชียลมีเดียที่ช่วยได้มากในขณะที่ทำงานที่บ้านคือ Hootsuite คุณสามารถจัดการโซเชียลมีเดียของคุณ โดยจัดการบัญชีโซเชียลมีเดียหลายบัญชีในแพลตฟอร์มเดียว
จะเห็นได้ว่า tools ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ครอบคลุมการใช้งานทั้ง 4 รูปแบบ คือ
Remote Working Tools
Collaboration Tools
Communication Tools
Project Management Tools
ซึ่งแต่ละตัวก็แตกต่างกันทั้งฟังก์ชั่นและรูปแบบการใช้งาน มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางการเลือกใช้ tools ให้เหมาะสมกับงาน และทีมของคุณ
บริษัทมีแนวทางการพัฒนาเว็บไซต์ การตลาดออนไลน์ ที่เน้นคุณภาพ สร้างผลลัพธ์ได้จริง เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต ในโลกออนไลน์ พวกเรายินดีให้คำปรึกษา พร้อมวางแผนกลยุทธ์ภายใต้โจทย์ทางธุรกิจที่ชัดเจน