แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ คือ เว็บแพลตฟอร์มหรือโปรแกรมที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างและจัดการร้านค้าออนไลน์ของตนได้ ซึ่งมีเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ช่วยให้ความสะดวกสบายในการดูแลรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าและบริการผ่านทางอินเตอร์เน็ต รวมทั้งการสร้างเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ ระบบจัดการสินค้า ระบบชำระเงินออนไลน์ ระบบจัดการคำสั่งซื้อ และฟีเจอร์เสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการสร้างธุรกิจออนไลน์
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน มีดังนี้
- 1. Magento
- ข้อดีของ Magento
- ข้อเสียของ Magento
- 2. Shopify
- ข้อดีของ Shopify
- ข้อเสียของ Shopify
- 3.WooCommerce
- ข้อดีของ WooCommerce
- ข้อเสียของ WooCommerce
- 4. WIX
- ข้อดีของ Wix
- ข้อเสียของ Wix
- 5. Ecwid
- ข้อดีของ Ecwid
- ข้อเสียของ Ecwid
- 6. BigCommerce
- ข้อดีของ BigCommerce
- ข้อเสียของ BigCommerce
- 7. AppMaster
- ข้อดีของ AppMaster
- ข้อเสียของ AppMaster
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน มีดังนี้
1. Magento
2. Shopify
3. WooCommerce
4. Wix
5. Ecwid
6. BigCommerce
7. AppMaster
1. Magento
Magento เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Magento Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม Adobe และให้บริการเพื่อช่วยในการสร้างร้านค้าออนไลน์ที่มีความซับซ้อนและความสามารถในการปรับแต่งสูง ในปัจจุบัน Magento ถูกพัฒนาเป็นสองเวอร์ชันคือ Magento Open Source (ก่อนหน้านี้เรียกว่า Magento Community Edition) และ Magento Commerce (ก่อนหน้านี้เรียกว่า Magento Enterprise Edition) ทั้งสองเวอร์ชั่นมีความแตกต่างกันตามฟังก์ชันและความสามารถที่นำเสนอ
Magento เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่ใหญ่และซับซ้อน มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งและปรับใช้ฟีเจอร์ตามความต้องการ
ข้อดีของ Magento
- ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง
Magento เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งร้านค้าออนไลน์ให้เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ คุณสามารถปรับแต่งธีม รูปแบบเลย์เอาต์ การแสดงผลสินค้า และการเพิ่มเติมฟีเจอร์ต่าง ๆ ตามต้องการ - ระบบการจัดการสินค้าที่มีมาตรฐาน
Magento มีระบบจัดการสินค้าที่สามารถจัดการคุณสมบัติสินค้า ราคา สต็อกสินค้า การสั่งซื้อ และการจัดส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐาน - การส่งเสริมการขายและการตลาด
Magento มีเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยในการตลาดออนไลน์ เช่น การจัดการคูปอง โปรโมชั่น และบัตรกำนัล เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าและเพิ่มยอดขาย - ความสามารถในการรองรับหลายภาษา และหลากหลายสกุลเงิน
Magento มีระบบสำหรับการจัดการภาษาและสกุลเงินที่หลากหลาย ทำให้สามารถขายสินค้าในหลายประเทศได้โดยง่าย - ความปลอดภัยสูง
Magento มีความปลอดภัยสูงและให้การรับประกันที่มั่นใจในการปกป้องข้อมูลลูกค้าและการทำธุรกิจของคุณ
ข้อเสียของ Magento
- ความซับซ้อนในการติดตั้งและการดูแล
Magento มีความซับซ้อนในกระบวนการติดตั้งและการดูแลที่ค่อนข้างซับซ้อน ควรมีความรู้ในเรื่องของ Web Service ต่างๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเหมาะสม - ต้องใช้ทรัพยากรที่มาก
Magento เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ทรัพยากรมาก อาจต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีความสามารถสูงเพื่อให้รองรับการใช้งานอย่างเหมาะสม - การอัปเกรดและการทำงานกับปลั๊กอิน
การอัปเกรด Magento และการทำงานกับปลั๊กอินที่ต่างกันอาจทำให้เกิดข้อบกพร่องหรือปัญหาเกี่ยวกับความสามารถของร้านค้าออนไลน์ - การเรียนรู้ที่ยาก
การใช้งาน Magento อาจใช้เวลานานกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่มีความซับซ้อนต่ำกว่า
2. Shopify
Shopify เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Shopify Inc. ซึ่งเปิดให้บริการในการสร้างร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ เน้นในความง่ายในการใช้งาน และการให้บริการที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กหรือใหญ่ สามารถนำ Shopify มาใช้ในการขายสินค้าและบริการออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย
ข้อดีของ Shopify
1. ความง่ายในการใช้งาน
Shopify มีอินเตอร์เฟซใช้งานที่ใช้งานง่ายและสามารถปรับแต่งร้านค้าออนไลน์ได้อย่างสะดวก ไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเว็บเพื่อสร้างร้านค้าออนไลน์
2. การจัดการสินค้าที่มีความสามารถ
Shopify มีระบบจัดการสินค้าที่เป็นมาตรฐานและสามารถจัดการราคาสินค้า สต็อกสินค้า การจัดส่ง และการจัดการคำสั่งซื้อได้อย่างสะดวก
3. ความปลอดภัยและความเชื่อถือ
Shopify มีระบบความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือเพื่อปกป้องข้อมูลลูกค้าและการทำธุรกิจ การสำรองข้อมูลและความน่าเชื่อถือในการให้บริการ
4. เทมเพลตที่สวยงาม
มีเทมเพลตที่สวยงามและสมบูรณ์ให้เลือกใช้ในการสร้างร้านค้าออนไลน์ ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งร้านค้าให้มีลุคและสไตล์ตามต้องการ
5. ความสามารถในการต่อเชื่อมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ
Shopify สามารถต่อเชื่อมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย เช่น การชำระเงิน การจัดส่ง และบริการต่าง ๆ ที่ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์มีความสมบูรณ์และประสบความสำเร็จ
ข้อเสียของ Shopify
1. ค่าบริการ
Shopify เป็นแพลตฟอร์มที่เสียค่าบริการเมื่อใช้งาน ค่าบริการนี้อาจสูงขึ้นในกรณีที่ร้านค้าออนไลน์มีขนาดใหญ่และมีการขายสินค้ามาก
2. การใช้ปลั๊กอิน
หากคุณต้องการเพิ่มฟีเจอร์พิเศษในร้านค้าออนไลน์ อาจต้องใช้ปลั๊กอินเสริมที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
3.การปรับแต่งสูงสุด
หากคุณต้องการปรับแต่งสูงสุดในเรื่องของฟังก์ชันและการเปลี่ยนแปลงเครื่องมือในร้านค้า อาจต้องพัฒนาซอฟต์แวร์ในระดับขั้นสูง
4.ความยากในการเปลี่ยนแปลงหน้าตาเว็บไซต์
Shopify มีเทมเพลตที่สวยงาม แต่การเปลี่ยนแปลงหน้าตาเว็บไซต์อาจมีความยากลำบากในกรณีที่ต้องการทำให้เหมือนกับเว็บไซต์ที่อยู่ในแบรนด์อื่น ๆ
3.WooCommerce
WooCommerce เป็นปลั๊กอิน (Plugin) ของระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ชื่อว่า WordPress ที่ใช้ในการสร้างร้านค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการของผู้ใช้ได้แบบอิสระ โดยมีร้านค้าออนไลน์มากกว่า 50 ล้านแห่งทั่วโลก
ข้อดีของ WooCommerce
- ติดตั้งง่าย
WooCommerce เป็นปลั๊กอินที่ติดตั้งและใช้งานง่าย คุณสามารถเพิ่มร้านค้าออนไลน์ลงในเว็บไซต์ WordPress ของคุณได้โดยทันทีเพื่อเริ่มต้นใช้งาน - ความสามารถในการปรับแต่ง
WooCommerce มีธีมและเทมเพลตที่สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีปลั๊กอินที่สามารถเพิ่มฟังก์ชั่นเสริมได้ตามความต้องการของร้านค้า - ระบบการจัดการสินค้าที่เหมาะสม
WooCommerce มีระบบการจัดการสินค้าที่ครอบคลุมทั้งในการจัดการราคาสินค้า สต็อกสินค้า การจัดส่ง และการติดตามคำสั่งซื้อ - Plugin (โปรแกรมเสริม) ที่หลากหลาย
WooCommerce มีปลั๊กอินที่ให้ความสามารถในการเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น การชำระเงิน การจัดส่ง การจัดการสินค้าและการส่งเสริมการขาย - Community และ การ supports
มี Community ของนักพัฒนาและผู้ใช้งาน WooCommerce ที่ให้ความสำคัญในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาและปรับปรุงร้านค้าอย่างเหมาะสม
ข้อเสียของ WooCommerce
- ความซับซ้อนในการตั้งค่า
การตั้งค่าของ WooCommerce อาจค่อนข้างซับซ้อน โดยเฉพาะหากคุณต้องการปรับแต่งและใช้งานปลั๊กอินเสริม - ข้อจำกัดในเลือกธีม
บางธีมอาจมีข้อจำกัดในเรื่องของการปรับแต่งตามต้องการของคุณ คุณอาจต้องมีการแก้ไขโค้ดเพิ่มเติมหากต้องการเปลี่ยนแปลงหน้าตาของร้านค้า - การทำงานกับภาษาและสกุลเงิน
ในบางกรณี การทำงานกับภาษาและสกุลเงินที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษและสกุลเงินที่ไม่ใช่ USD อาจต้องใช้ปลั๊กอินเสริมหรือการตั้งค่าเพิ่มเติม - ความเก่าแก่ WooCommerce ขึ้นต้นมาจากปี 2011 ซึ่งหมายความว่าอาจมีฟังก์ชั่นบางอย่างที่เก่าแก่และต้องอัปเกรดใหม่เพื่อให้ทันสมัย
4. WIX
Wix เป็นแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ที่ให้บริการทั้งในเวอร์ชั่นฟรีและเสียเงิน ซึ่งให้ความสะดวกสบายในการสร้างเว็บไซต์โดยไม่ต้องมีความรู้หรือทักษะด้านการเขียนโค้ดเลย มีเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีเทมเพลตที่สวยงามให้เลือกใช้ในการออกแบบเว็บไซต์ตามต้องการ
Wix มีธีมให้เลือกมากมายและผู้ใช้สามารถปรับแต่งเว็บไซต์ของตนได้อย่างเต็มที่ Wix ยังเสนอคุณสมบัติต่างๆ เช่น อีเมลการตลาด โซเชียลมีเดีย และการวิเคราะห์
ข้อดีของ Wix
- ความสะดวกสบายในการใช้งาน
Wix มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและสามารถลากและวางองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อสร้างเว็บไซต์ได้อย่างสะดวก - ทำเว็บไซต์ที่สวยงาม
Wix มีเทมเพลตที่สวยงามที่สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ที่มีลุคและสไตล์ตามที่คุณต้องการ - มีฟีเจอร์ต่าง ๆ
Wix มีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างร้านค้าออนไลน์ การเพิ่มโมดูลสื่อสารสังคม การตั้งค่าเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ SEO และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ให้ความสามารถในการปรับแต่งเว็บไซต์ - ความสามารถในการขายสินค้าออนไลน์
สำหรับร้านค้าออนไลน์ คุณสามารถใช้ Wix สร้างร้านค้าออนไลน์และใช้ฟีเจอร์การชำระเงินออนไลน์ได้ - การให้บริการฟรีและเสียเงิน
Wix มีให้บริการในรูปแบบที่เสียเงินและฟรี ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้แผนที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
ข้อเสียของ Wix
- การจำกัดในการปรับแต่ง
การปรับแต่งใน Wix อาจจำกัดในบางกรณี และคุณอาจต้องเลือกธีมหรือรูปแบบที่มีให้ใน Wix เนื่องจากฟีเจอร์การปรับแต่งในระดับขั้นสูงมีอยู่น้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่น - ค่าบริการในระดับสูง
แผนบริการที่มีความสมบูรณ์และฟีเจอร์ที่ครอบคลุมอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่น - การอัปเกรดภายในแพลตฟอร์ม
การเปลี่ยนแปลงแผนบริการหรืออัปเกรดฟีเจอร์ภายในแพลตฟอร์ม Wix อาจส่งผลให้คุณต้องมีการปรับแต่งหรือเปลี่ยนแปลงในระดับซอฟต์แวร์ - ความจำกัดในการทำธุรกิจระดับใหญ่
ในกรณีที่คุณมีธุรกิจใหญ่และมีความต้องการที่ซับซ้อน
5. Ecwid
Ecwid เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างและจัดการร้านค้าออนไลน์ได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านโค้ด Ecwid สามารถใช้กับเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นด้วยแพลตฟอร์มใดก็ได้ รวมถึง WordPress, Shopify, Wix และอื่นๆ Ecwid ยังเสนอคุณสมบัติต่างๆ เช่น การจัดการสต็อก การจัดการการชำระเงิน การจัดส่ง และการตลาด
ข้อดีของ Ecwid
- ใช้งานง่าย
- ปรับแต่งได้สูง
- เสนอคุณสมบัติต่างๆ เช่น การจัดการสต็อก การจัดการการชำระเงิน การจัดส่ง และการตลาด
- มีแผนราคาให้เลือกมากมาย
- รองรับหลายภาษา
ข้อเสียของ Ecwid
- อาจไม่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความต้องการเฉพาะ
- อาจต้องมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง
6. BigCommerce
BigCommerce เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซบนคลาวด์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างและจัดการร้านค้าออนไลน์ได้ แพลตฟอร์มนี้ใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติมากมายที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถขายสินค้าออนไลน์ได้
ข้อดีของ BigCommerce
- ใช้งานง่าย แพลตฟอร์ม BigCommerce ใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติมากมายที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถขายสินค้าออนไลน์ได้
- มีคุณสมบัติมากมาย แพลตฟอร์ม BigCommerce มีคุณสมบัติมากมายที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถขายสินค้าออนไลน์ได้ คุณสมบัติเหล่านี้รวมถึงการจัดการสต็อก การจัดการการชำระเงิน การจัดส่ง และการตลาด
- ปรับแต่งได้สูง แพลตฟอร์ม BigCommerce ปรับแต่งได้สูงและธุรกิจสามารถปรับแต่งร้านค้าออนไลน์ของตนได้ตามความต้องการ
- ปลอดภัยและเชื่อถือได้ แพลตฟอร์ม BigCommerce ปลอดภัยและเชื่อถือได้และได้รับการปกป้องด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
- มีแผนราคาให้เลือกมากมาย: แพลตฟอร์ม BigCommerce มีแผนราคาให้เลือกมากมายเพื่อให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถหาแผนที่เหมาะสมกับความต้องการของตนได้
ข้อเสียของ BigCommerce
- อาจแพงสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก: แพลตฟอร์ม BigCommerce อาจแพงสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
- อาจไม่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีความต้องการเฉพาะ: แพลตฟอร์ม BigCommerce อาจไม่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีความต้องการเฉพาะ เช่น ความต้องการด้านความปลอดภัยหรือความต้องการด้านการปรับแต่งขั้นสูง อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์ม BigCommerce เสนอตัวเลือกการปรับแต่งและบริการเสริมที่หลากหลายซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะของธุรกิจขนาดใหญ่ได้
- อาจต้องมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง: แพลตฟอร์ม BigCommerce ใช้งานง่าย แต่อาจต้องมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง คุณจะต้องเพิ่มผลิตภัณฑ์ จัดการสต็อก และติดตามคำสั่งซื้อของคุณเป็นประจำ คุณอาจต้องปรับแต่งร้านค้าออนไลน์ของคุณตามความต้องการของธุรกิจของคุณ
7. AppMaster
AppMaster เป็นแพลตฟอร์มสำหรับสร้างแอปพลิเคชันบนคลาวด์แบบ no-code ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างแอปพลิเคชันโดยไม่ต้องเขียนโค้ด แพลตฟอร์มนี้ใช้สถาปัตยกรรมแบบกระจายและสามารถใช้ในการสร้างแอปพลิเคชันทุกประเภท รวมถึงแอปพลิเคชันเว็บ แอปพลิเคชันมือถือ และ API
ข้อดีของ AppMaster
- ใช้งานง่าย แพลตฟอร์ม AppMaster ใช้งานง่ายมาก ผู้ใช้สามารถสร้างแอปพลิเคชันโดยไม่ต้องเขียนโค้ด
- ปรับแต่งได้สูง แพลตฟอร์ม AppMaster ปรับแต่งได้สูง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งแอปพลิเคชันของตนได้ตามความต้องการ
- ปลอดภัย แพลตฟอร์ม AppMaster ปลอดภัยและได้รับการปกป้องด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
- เชื่อถือได้ แพลตฟอร์ม AppMaster เชื่อถือได้และได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในการผลิต
- คุ้มค่าแพลตฟอร์ม AppMaster คุ้มค่าและเสนอแผนราคาที่หลากหลายเพื่อให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถหาแผนที่เหมาะสมกับความต้องการของตนได้
ข้อเสียของ AppMaster
- อาจไม่เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ซับซ้อน แพลตฟอร์ม AppMaster อาจไม่เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนซึ่งต้องใช้โค้ดที่กำหนดเอง
- อาจไม่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีความต้องการเฉพาะ แพลตฟอร์ม AppMaster อาจไม่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีความต้องการเฉพาะ เช่น ความต้องการด้านความปลอดภัยหรือความต้องการด้านการปรับแต่งขั้นสูง
- อาจต้องมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง แพลตฟอร์ม AppMaster ใช้งานง่าย แต่อาจต้องมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้จะต้องอัปเดตแอปพลิเคชันของตนเป็นประจำเพื่อรับการอัปเดตความปลอดภัยและคุณสมบัติใหม่
สำหรับการเลือกใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของธุรกิจของคุณ ขนาดของธุรกิจของคุณ งบประมาณของคุณ และความต้องการเฉพาะของคุณ แต่ละแพลตฟอร์มอาจมีความสามารถและฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรศึกษาและทดสอบแพลตฟอร์มที่เหมาะสมก่อนที่จะตัดสินใจใช้
บริษัทมีแนวทางการพัฒนาเว็บไซต์ การตลาดออนไลน์ ที่เน้นคุณภาพ สร้างผลลัพธ์ได้จริง เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต ในโลกออนไลน์ พวกเรายินดีให้คำปรึกษา พร้อมวางแผนกลยุทธ์ภายใต้โจทย์ทางธุรกิจที่ชัดเจน